1. เหมาะกับมือใหม่ผู้เริ่มต้นที่เน้นการใช้งาน Cable เป็นหลัก เพราะ I5Flow Jammer มี Pinloadหรือแผ่นน้ำหนักที่ให้มา เป็นอัตรารอกทด 2 : 1 ทำให้ใช้งานได้ง่าย เล่นง่ายมากๆ ใช้งานง่ายกว่า (รอกทด 1:1) แบบชัดเจน เหมาะกับมือใหม่มากๆ ปรับใช้เล่นได้ตั้งแต่ผู้ฝึกเริ่มต้นจนถึงระดับมือโปรไดัดี
- ชุด Pinload ครอบคลุมที่สุด เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการแรงต้านน้ำหนัก ตั้งแต่ระดับเริ่มต้น - กลาง - สูง
- แม้แต่ผู้ใช้งานที่เน้นสร้างกล้ามเนื้อระดับ เริ่มต้นถึง-กลาง ก็ใช้ได้ง่ายแบบปลอดภัย ค่อยเป็นค่อยไป เพราะช่วงน้ำหนักจะห่างกัน 3 kg (ผ่านรอกทดแล้ว) ซึ่งเป็นอัตราที่เหมาะสมต่อการสร้างกล้ามเนื้อแบบที่ปลอดภัยต่อกล้ามเนื้อของเรา
- โดย Pinload ที่ให้ติดเครื่องมาคือ 200 kg/ข้างละ 100 kg ก็เพียงพอต่อการใช้งานทั่วไปแล้ว
แบ่งการใช้งาน Pinload เป็นระดับได้ดังนี้
1. มือใหม่ >> ใช้ Pinload น้ำหนักแรกๆ ที่ติดกับเครื่องได้เลย (ใช้ง่าย)
2. ระดับกลาง >> ใช้ Pinload ในเครื่องไต่น้ำหนักขึ้นได้ไปเรือยๆ ได้เช่นกัน
3. มืออาชีพ >> ใช้ Pinload + Weight Plateload (อุปกรณ์เสริม) เพิ่มน้ำหนักแรงต้านต่อข้างได้ในระดับสูงสุด
*** สรุปในส่วนเคเบิ้ล เหมาะกับการใช้งานสำหรับทุกกลุ่ม
2. Jammer Arms ฟังชั่นนี้เน้นตอบโจทย์การใช้งานหนักได้ดีมาก ใครชอบอุปกรณ์เสริมสายหนัก เปลี่ยนท่าได้หลากหลาย ใช้งานผสมน้ำหนักได้ถึง 6 แบบ ถือว่าตอบโจทย์ได้หลากหลายสำหรับสายหนักมากๆ
1. ใช้กับ Pinload 200 kg
2. ใช้กับ Pinload 200 kg + Weight Plateload เพิ่มน้ำหนักให้สูงสุดได้เลย
3. ใช้เฉพาะแผ่นน้ำหนัก Plateload อย่างเดียวก็ได้ (ติดกับตัว JM)
4. ใช้กับ Resistance Band (มือใหม่เล่นได้ง่าย)
5. ใช้น้ำหนักรวมทั้งหมด หรือสลับใช้ได้ตามต้องการ
6. ใช้เฉพาะตัว Jammer Arms เปล่าๆ ต่อข้างก็มีน้ำหนักเกือบ 7-8 kg อยู่แล้ว
*** สรุปเหมาะกับผู้ฝึกกล้ามเนื้ออยู่แล้ว - มืออาชีพ - มือใหม่ใช้ JM เปล่า หรือเล่นคู่กับ Resistance Band ได้
3. Bar smith เหมาะกับผู้ใช้งานที่พอมีทักษะมาบ้างแล้ว
เนื่องจากตัวบาร์สมิทหรือบาร์เบลที่ติดเครื่องในรุ่นนี้มานั้น เป็นแบบที่ ไม่มีระบบ Counter balance นั่นหมายถึง ตัวบาร์จะมีน้ำหนักเต็มๆ แบบไม่มีตัวช่วยพยุง
- ด้วยน้ำหนักของตัวบาร์กว่า 16 kg อาจจะค่อนข้างยากในระดับเริ่มต้น แต่ไม่ต้องกังวล เพราะทุกเครื่องจะมีตัวเซฟตี้ที่เราสามารถตั้งเอาไว้ก่อนใช้งานได้ ปลอดภัยแน่นอน
- แม้จะไม่มีระบบ Counter balance แต่ก็มั่นใจได้ว่า ถ่วงท่าที่ฝึกท่าสควอท (squat) กับบาร์สมิทนั้น ก็จะได้องศาที่ถูกต้อง ไม่เสียบาลานซ์ การทรงตัว เพราะตัวบาร์เองถูกล็อคด้วยรางแร๊คไว้อยู่แล้ว
--------------------------------------------------------
สรุป
จะเห็นได้ชัดจากข้อมูลของทางร้านว่าทั้ง 2 รุ่น แตกต่างกันแบบสิ้นเชิง เราคงต้องดูในเรื่องของการใช้งานว่าเครื่องแบบไหนที่ตอบโจทย์การใช้งานของเรามากที่สุด
Monster Force G11 จะให้ความสะดวกเรื่องของตัวบาร์สมิทที่มีระบบ Counter Ballance เหมาะมากอย่างยิ่งสำหรับมือใหม่จนถึงมืออาชีพ ได้ทั้งความปลอดภัยและฝึกใช้บาร์ไปพร้อมๆ กัน ส่วนน้ำหนักของเคเบิ้ลก็ค่อนข้างได้เปรียบสำหรับคนที่ต้องการฝึกแบบเข้มข้นและพัฒนาไปเรื่อยๆ แต่อาจจะดูหนักไปหน่อยสำหรับมือใหม่ และถ้ายิ่งเปรีียบในเรื่องของราคาด้วยแล้ว Smith Machine Monster Force G11 ก็ยังมีราคาที่ถูกกว่าค่อนข้างเยอะ จับต้องได้ง่ายกว่า
i5flow Jammer เครื่องรุ่นใหญ่ระดับยิมที่ให้การใช้งานที่ครอบคลุมกว่า G11 ในทุกมิติ ให้ความสะดวกในเรื่องของอุปกรณ์ต่างๆ ที่ให้มามากมายอย่างครบครันที่สุดแล้ว ยิ่งถ้าดูในเรื่องของการเล่นเคเบิ้ลแล้วจะรู้เลยว่า ตัวนี้ตอบโจทย์มือใหม่ได้มากกว่า จนไปถึงมืออาชีพเลย เพราะอัตรารอกทด 2 : 1 ของเครื่อง ทำให้ใช้งานได้ง่ายมากๆ และยังปรับใช้ระบบนี้กับอุปกรณ์เสริมที่ให้มากับเครื่องได้อีกมากมายไม่ว่าจะเป็นบาร์สั้น บาร์ยาว แผ่นlegpress รวมไปถึง Jammer Arms แต่ด้วยเป็นตัว Top ทำให้ราคาค่อนข้างสูง แต่ใครที่พอมีงบประมาณบอกเลยว่า เครื่องนี้ตอบโจทย์รอบด้านครบครันที่สุดแล้ว เพราะถือว่ารุ่นนี้สเปคสูงที่สุดในรุ่นแล้ว